เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทำงานอย่างไร?
ประเภทของ Network
- Wired Network เป็นการสื่อสารแบบมีสาย(LAN) ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานตามจุดที่กำหนดเท่านั้น ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงาน เป็นต้น การเชื่อมต่อแบบ Wired Network จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับอุปกรณ์อื่นๆเข้าด้วยกัน เช่น คอมพิวเตอร์ PC โน๊ตบุ๊ค Printer เป็นต้น
- Wireless Network เป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สายโดยใช้การส่งคลื่นวิทยุเพื่อรับส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลายเช่น โทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊ค กล้องดิจิตอล ทีวี ลำโพง โดรน เป็นต้น การเชื่อมต่อแบบนี้ได้รับความนิยมมาก เพราะใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
PAN(Personal Area Network) เป็นการเชื่อมต่อที่เล็กที่สุดเช่น ภายในห้องห้องเดียว หรือเชื่อมต่อคนเดียวกับอุปกรณ์ส่วนตัวเช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ Printer เป็นต้น
LAN(Local Area Network) เป็นเครือข่ายที่ใช้เชื่อมต่อระยะใกล้ จำกัดพื้นที่ โดยทั่วไปแล้วจะเชื่อมต่อภายในบ้าน ภายใน Office หรือภายในมหาวิทยาลัย เราสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆเข้าด้วยกันโดยผ่านสาย LAN หรือผ่านระบบเครือข่ายไร้สาย เช่น มีการติดตั้ง Internet โดยใช้อุปกรณ์ Router เมื่อเราต้องการใช้ Internet ก็แค่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของเราเข้ากับ Router ผ่านระบบ WiFi นั้นเอง
WLAN(Wireless Local Area Network) คล้ายกับ LAN แต่ไม่ใช้สาย Cable ในการเชื่อมต่อ หากเรากำลังใช้ WiFi อยู่ แสดงว่าเรากำลังเชื่อมต่อแบบ WLAN อยู่ ระยะในการเชื่อมต่อนั้นจะคล้ายกับ LAN คือเน้นระยะใกล้แต่จะใช้งานสะดวกกว่าเพราะไม่ใช้สาย
MAN(Metropolitan Area Network) MAN จะมีลักษณะเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้นกว่า LAN แต่เล็กกว่า WAN รองรับการเชื่อมต่อระดับเมือง ปกติแล้วเราสามารถกำหนดว่าระยะทางไม่เกิน 50 KM ถือว่าเป็น MAN ได้ ปัจจุบันการเชื่อมต่อประเภทนี้อาจไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไหร่แล้ว
WAN(Wide Area Network) เครือข่ายนี้ครอบคลุมการเชื่อมต่อเป็นกว้างเชื่อมต่อระยะไกลๆระดับเมือง จังหวัด หรือระดับประเทศ เราสามารถเชื่อมต่อระหว่างเมืองด้วยสายไฟเบอร์ออฟติกซึ่งเป็นสายที่ให้ความเร็วสูงและยังต้องอาศัยอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆอีกมากหมายเช่น Switch Louter ดาวเทียม Repeater เป็นต้น
VPN(Virtual Private Network) เป็นการเชื่อมต่อที่เน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เพราะ VPN จะทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างคอมพิวเตอร์เครื่องที่เราใช้งานกับเครือข่ายอื่นๆโดยทุกๆการรับส่งข้อมูล ข้อมูลจะถูกเข้ารหัสและซ่อนตัวตนไว้ VPN ยังสามารถป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตราย ที่อาจนำไปสู่การแฮกข้อมูลได้
ประเภทเครือข่ายคอมพิวเตอร์
- Client ที่เป็นเครื่องลูกข่าย เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ smart phone หรือโปรแกรมก็ได้
- Server ที่เป็นเครื่องแม่ข่าย เป็นคอมพิวเตอร์โปรแกรม ทำหน้าที่รับส่งข้อมูลให้กับเครื่องลูกข่ายโดยคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องสามารถมีหลายเครื่องลูกข่ายได้
อุปกรณ์การสื่อสาร
Hub เป็นอุปกรณ์ศูนย์กลางที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆเข้าด้วยกัน ทำให้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถส่งข้อมูลถึงกันได้ผ่าน Hub หากคอมพิวเตอร์ต้นทางมีการส่งข้อมูลไปยัง Hub คอมพิวเตอร์ใดๆก็ตามที่เชื่อมต่อ Hub จะได้รับข้อมูลนันเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งนั่นหมายความว่า Hub ไม่สามารถจะเลือกส่งข้อมูลไปยังเครื่องใดเครื่องหนึ่งได้ การส่งข้อข้อมูลแบบนี้อาจทำให้การใช้งานในบางกรณีไม่สะดวกโดยเฉพาะข้อมูลที่สำคัญ ที่ต้องการความปลอดภัย ข้อมูลที่ส่งไม่ควรส่งไปถึงทุกเครื่อง ควรสามารถระบุเครื่องที่ต้องการส่งได้ ซึ่งความสามารถนี้เอง Hub ไม่สามารถทำได้ทำให้เกิด Switch ขึ้นมา
- IP Address คือหมายเลขที่จะระบุตัวตนของเครื่อง เช่น เรามีพัสดุที่ไปรษณีย์จะส่งของไปให้ ในหมู่บ้านของเราจะมีบ้านเลขที่เป็นตัวบอกให้ไปรษณีย์รู้ว่าจะส่งหลังไหน ซึ่งแต่ละหลังก็จะมีเลขที่ไม่เหมือนกัน การทำงานของ IP Address ก็เช่นเดียวกันคือใช้กำหนดเพื่อระบุถึงคอมพิวเตอร์เครื่องต่างๆให้สามารถส่งข้อมูลได้
- Subnet Mask ใช้ระบุว่าส่วนไหนเป็นของ Network ส่วนไหนเป็นส่วนของ Host
- Gateway คือหมายเลข IP ของ Router เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- DNS Server คำว่า DNS นั้นย่อมาจาก Domain Name System คือการแปลง IP Address ไปเป็นชื่อที่สามารถจดจำได้ง่าย เช่น IP ของ google คือ 172.217.8.96 หากเราจะเข้า google โดยจำชื่อ IP ก็คงลำบาก ดังนั้น DNS Server ทำหน้าที่แปลงชื่อ Domain Name www.google.com แปลงเป็น IP Address ก่อนถึงจะแสดงหน้าเว็บขึ้นมา