สำเพ็งกำลังจะตายเมื่อถูกออนไลน์บุก
สำเพ็งเป็นย่านการค้าแห่งหนึ่งที่คึกคักมากในกรุงเทพ และมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน สินค้าก็มีหลากหลายรายการ ร้านค้าก็แน่นไปหมด และยังเคยเป็นย่านที่มีที่ดินที่ราคาสูงที่สุด จุดเด่นของที่นี้คือมีสินค้าให้เลือกเยอะ เดินเพลินๆ และราคาถูก ต่อรองได้ ยิ่งสั่งเยอะยิ่งราคาถูกลงไปอีก แต่ในปัจจุบันนั้นความคึกคักของสำเพ็งได้ลดลงไปเยอะทีเดียว เมื่อ E-commerce เกิดขึ้นมา พฤติกรรมคนซื้อเริ่มเปลี่ยนไป จากแต่ก่อนอยากได้อะไรก็จะคิดถึงสำเพ็งก่อน แต่ปัจจุบันของที่มีในสำเพ็งก็ถูกขายออนไลน์ด้วย หรือว่านี้จะเป็นจุดเปลี่ยนของเทคโนโลยีที่จะรุกคืบจนอาจทำให้สำเพ็งเป็นแค่ชื่อในตำนาน
พฤติกรรมคนซื้อเปลี่ยนไป หันไปช๊อปออนไลน์มากขึ้น
เหตุผลใหญ่ที่สำเพ็งน่าจะได้รับผลกระทบคือ การที่คนเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าไป จากเดิมหากใครต้องการซื้อของแนว กิ๊ฟช็อป ตุ๊กตา หรือของทั่วไป ก็คงพากันไปเดินสำเพ็งแล้ว ซึ่งเราอาจแบ่งกลุ่มคนที่ต้องการซื้อสินค้าเหล่านี้ออกเป็นสองกลุ่ม
- กลุ่มแรกคือมีเป้าหมายชัดเจนว่าอยากได้อะไร ที่จะมุ่งตรงไปที่ร้านๆนั้นหรือของที่อยากได้เลย กลุ่มนี้หล่ะจะหันมาช๊อปออนไลน์มากขึ้น เพราะรู้อยู่แล้วต้องการอะไร ไม่ต้องไปเดินให้ให้ เบียดคนอื่น
- กลุ่มสองคือกลุ่มที่ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการอะไร แค่เพียงอยากไปหาของที่สนใจ และไปเดินเล่นด้วย กลุ่มนี้จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อการช๊อปที่สำเพ็งมากนัก
ด้วยการขายแบบออนไลน์ทำให้ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์กับกลุ่มแรกเปลี่ยนจากไปเดินหาซื้อของเป็นการช๊อปออนไลน์แทนซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเดินสำเพ็งลดลง
สั่งตรงจากโรงงาน ไม่ต้องพึ่งตัวกลางอย่างสำเพ็ง
สำเพ็งถึงแม้จะเป็นแหล่งสินค้าที่ขายของถูก แต่ที่จริงแล้วสำเพ็งนั้นก็คือพ่อค้าแม่ค้าคนกลางนั้นเอง เพราะพ่อค้าแม่ค้าที่สำเพ็งก็จะส่งของจากโรงงานที่จีนอีกที แล้วนำมาขายทำกำไรที่สำเพ็ง บางชิ้นกำไรเป็น 5 เท่า 10 เท่าเลย แต่ปัจจุบันเว็บดังอย่าง Lazada ที่อยู่ภายใต้เครือ alibaba เปิดให้สินค้าที่ขายใน alibaba สามารถขายบน Lazada ได้ด้วย ซึ่งหลายๆโรงงานเองก็ขายตรงผ่าน alibaba อยู่แล้ว แล้วยังสามารถเชื่อมกับ Lazada ได้อีก นั้นหมายความว่า เมื่อเราสั่งของผ่านเว็บ Lazada ก็เท่ากับว่าเราได้ซื้อของตรงจากโรงงานเลย เพียงแต่อาจจะใช้ระยะเวลาจัดส่งนานหน่อย แต่แลกกับของที่ได้ราคาถูกลงก็ถือว่าคุ้ม ตรงนี้เองทำให้พ่อค้าแม่ค้าคนกลางอย่างสำเพ็งก็ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ เพราะระบบมาเป็นตัวกลางแทนคน ย่อมทำให้ส่งผลต่อยอดขายแน่นอน
เว็บ E-commerce แข่งอัดโปรโมชั่น
ปัจจุบันในเมืองไทยมีเว็บ E-commerce เจ้าใหญ่ที่แข่งขันอยู่ และไม่นับรวมเว็บเล็กๆที่เกิดขึ้นมาอีกมากมาย ซึ่งในการมีเว็บที่มีการแข่งขัน E-commerce กันมากๆแล้ว แหล่งจูงใจที่จะทำให้คนซื้อสินค้าเว็บนั้นๆก็คงหนี้ไม่พ้นเรื่องราคา หากราคาเว็บไหนถูกกว่าคนก็จะแห่ไปช๊อปที่นั้น ซึ่งการแข่งขันด้านราคาของบรรดาเหล่าเว็บ E-commerce นี้เอง ก็ยิ่งเป็นการจูงใจคนหันไปช๊อปออนไลน์มากขึ้น ไหนจะยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สั่งอย่างเดียวรอให้คนมาส่งที่บ้าน บัตรเครดิตรูดไปก่อนแล้วค่อยจ่ายสิ้นเดือน โปรโมชั่นแบบถูกยิ่งกว่าสำเพ็ง เป็นต้น ถ้าจะเทียบแล้ว เว็บ E-commerce เหล่านี้ก็เปรียบเหมือนสำเพ็ง2 3 4 ที่เปิดขึ้นมาเพื่อรอแย่งลูกค้านั้นเอง
วิกฤตินี้จะมีทางออกหรือไม่
หากในระยะยาวแล้ว คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พฤติกรรมคนซื้อสินค้านั้นจะเปลี่ยนไป หรือการมีระบบมาแทนพ่อค้าแม่ค้าซึ่งเป็นตัวกลางแล้ว สิ่งที่ร้านค้าควรปรับตัวคือนำสินค้าในร้านตัวเองขายบนออนไลน์ เว็บไซต์ ช่องทางออนไลน์ต่างๆที่สามารถทำได้ เพื่อเป็นการสร้างฐานลูกค้าของตัวเอง ถึงแม้เราจะรับของจากโรงงานจีนมาอีกที แต่เรายังได้เปรียบเรื่องการจัดส่ง หากราคาสูงกว่านิดหน่อยแต่ได้ของเร็วกว่า จุดนี้ก็ยังได้เปรียบอยู่ เมื่อเราสร้างฐานลูกค้าจากช่องทางต่างๆได้จนมีรายได้ที่พอใจแล้ว ก็สามารถปิดหน้าร้านสำเพ็งลงไปได้เลย เพราะลดภาระค่าที่อันแสนแพงลงได้ อีกสิ่งที่ควรทำคือการหาสินค้าแปลกใหม่ ที่มีจุดเด่น เป็นเอกลักษณ์ เพราะถ้าเป็นสินค้าทั่วๆไปโรงงานจีนก็ผลิตได้ แต่ถ้าเป็นสินค้าที่มีจุดเด่น ไม่มีในตลาดมาก่อน แต่เป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งหากทำได้แล้วมันก็คือขุมทรัพย์ดีๆนั้นเอง
ปัจจุบันในเมืองไทยมีเว็บ E-commerce เจ้าใหญ่ที่แข่งขันอยู่ และไม่นับรวมเว็บเล็กๆที่เกิดขึ้นมาอีกมากมาย ซึ่งในการมีเว็บที่มีการแข่งขัน E-commerce กันมากๆแล้ว แหล่งจูงใจที่จะทำให้คนซื้อสินค้าเว็บนั้นๆก็คงหนี้ไม่พ้นเรื่องราคา หากราคาเว็บไหนถูกกว่าคนก็จะแห่ไปช๊อปที่นั้น ซึ่งการแข่งขันด้านราคาของบรรดาเหล่าเว็บ E-commerce นี้เอง ก็ยิ่งเป็นการจูงใจคนหันไปช๊อปออนไลน์มากขึ้น ไหนจะยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สั่งอย่างเดียวรอให้คนมาส่งที่บ้าน บัตรเครดิตรูดไปก่อนแล้วค่อยจ่ายสิ้นเดือน โปรโมชั่นแบบถูกยิ่งกว่าสำเพ็ง เป็นต้น ถ้าจะเทียบแล้ว เว็บ E-commerce เหล่านี้ก็เปรียบเหมือนสำเพ็ง2 3 4 ที่เปิดขึ้นมาเพื่อรอแย่งลูกค้านั้นเอง
วิกฤตินี้จะมีทางออกหรือไม่
หากในระยะยาวแล้ว คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พฤติกรรมคนซื้อสินค้านั้นจะเปลี่ยนไป หรือการมีระบบมาแทนพ่อค้าแม่ค้าซึ่งเป็นตัวกลางแล้ว สิ่งที่ร้านค้าควรปรับตัวคือนำสินค้าในร้านตัวเองขายบนออนไลน์ เว็บไซต์ ช่องทางออนไลน์ต่างๆที่สามารถทำได้ เพื่อเป็นการสร้างฐานลูกค้าของตัวเอง ถึงแม้เราจะรับของจากโรงงานจีนมาอีกที แต่เรายังได้เปรียบเรื่องการจัดส่ง หากราคาสูงกว่านิดหน่อยแต่ได้ของเร็วกว่า จุดนี้ก็ยังได้เปรียบอยู่ เมื่อเราสร้างฐานลูกค้าจากช่องทางต่างๆได้จนมีรายได้ที่พอใจแล้ว ก็สามารถปิดหน้าร้านสำเพ็งลงไปได้เลย เพราะลดภาระค่าที่อันแสนแพงลงได้ อีกสิ่งที่ควรทำคือการหาสินค้าแปลกใหม่ ที่มีจุดเด่น เป็นเอกลักษณ์ เพราะถ้าเป็นสินค้าทั่วๆไปโรงงานจีนก็ผลิตได้ แต่ถ้าเป็นสินค้าที่มีจุดเด่น ไม่มีในตลาดมาก่อน แต่เป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งหากทำได้แล้วมันก็คือขุมทรัพย์ดีๆนั้นเอง